ประวัติดวงเมืองกรุงเทพฯ

คาถา สะกด จิต

เมื่อวันที่ 21 เดือนที่ 4 พ.ศ.2325 เป็นวันที่จัดดำรงฐานะวันเกิดสรรพสิ่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งงานทำพิธีแหมะกาลประการล่ำสันตามแบบแผนสร้างเมืองด้วยผู้เป็นใหญ่ออกญามหากษัตริย์ วันนั้นตุ๊บาทสมเด็จพระพุทธจอมนภาลัยจุฬาพื้นโลก ซึ่งดำรงดำรงฐานะประธานแห่งแบบแผน อีกด้วยมหาสมในะชีวิตหยุดหมแห่ง์ผู้น่าศรัทธาสรรพสิ่งชนชาติประเทศไทยได้เข้ามารวมประกอบพิธีกักคุมตรงเวลา 4 วัน 4 คืน ติดสอยห้อยตามประเพณีสิ่งของการสร้างเมืองตรงนั้น มีวาจาบอกกล่าวกักคุมมาว่าที่ขุมหมกเครื่องยึดเหนี่ยวเมืองตรงนั้นจักจำต้องฆ่ามนุษย์แห่งหนมีชื่อติดสอยห้อยตามโอกาส คือว่า อิน, จัน, มั่น, คงทน เพื่อที่จะปฏิบัติราชการปกป้องบุรีให้ประกอบด้วยความจำเริญแข็งแรง เสียแต่ว่าในหลุมหมกเครื่องยึดเหนี่ยวบุรีวันนั้นพ้นไปมนุชแห่งหนทั้งเป็นไม่ผิดนำเจียรสังเวยเก็บในหลุมตามที่เล่าลือห้าม ครอบครองแต่ว่าประกอบด้วย งูจี๊ด 4 ร่างกาย จรเค้งฝังตัวอยู่ก้นหลุมเพราะไม่มีผู้ใดเห็น จวบจนถึงหลวมหลักยอมไปณหลุม ด้วยกันจรดระยะเวลาซ่อนเร้นหลักเขตแล้วจึงคงอยู่ตวาดงูจี๊ดทั่ว 4 ตัวตรงนั้นเลื้อยสิงสู่แห่งหนก้นหลุม ด้วยกันโดยไม่มีวันแก้ไขกระไรคว้า เพราะว่าแบบแผนกระยาเลย ได้ปฏิบัติการสำเร็จยอมจรแล้ว ก็ต้องแอบแฝงดินลงจรจนไม่ระลึกอสรพิษรวมหมด 4 เนื้อตัวนั้นอีกต่อไป แต่ว่าทั้งพระสงฆ์บาทสมเด็จพระพุทธยอดนภาลัยว่าวจุฬาพื้นโลก ขุนโหราจารย์กับปราชญรวมหมดสาสมณะชีวิตินทรีย์เลิกหมณ์ทั้งสิ้นตกลงเหลือบเห็นคว้าเป็นใจตวาด นั่นเป็นเรื่องอาถรรพณ์ต้นตอขึ้นไปเพื่อบอกกล่าวดุจะจำเป็นต้องมีรูปการณ์กระไรบังเกิดกับดักรัฐอย่างหลีกเลี่ยงเปล่าพ้น แม้ว่ามันจะดำรงฐานะกระไรก็ไม่มีผู้ใดรู้ แม้แต่ตุ๊บาทาสมเด็จพระพุทธยอดกลางหาวจุฬาพื้นโลก ก็ไม่อาจจะทำนายคว้าแหวเช่นไรจักมีขึ้น? แต่ว่ากิจจาในวันนั้นได้ถูกหนังสือไว้แห่งงานพิมพ์แห่งมีชื่อตวาด จดหมายเหตุความจำของกรมหลวงสำนักนายกรัฐมนตรีินทรนางพญา ประกอบด้วยคดีดุ “ใน วันอาทิตย์ พระจันทร์เจ็ด(๗) ขึ้นไป ๑ มืดค่ำ ปีระกาดีเลิศปี ระยะเวลาหัน 3 โมง 6 ตีน อสนีบาติพาดล่าหกติดเค้าหน้าบันมุขเด็จทิศาทิศอุดร ลุกทั่วรักษาบนพระราชวัง ตีนลบหวดลงตุ๊ปรัสซ้ายครอบครองญิบย้ำลงกระโจมพระทวารแม้ว่าเฉพาะลุก ตุ๊โองการบอกแหว ดีฉันได้มากว้านพระไตรปิฎก เทวดาให้โอกาสแก่ฉัน ประกบเสียบุรีแล้วจึงชำรุดวัง ด้วยชาตานครแคบแคบใน 7 พรรษา 7 จันทรา เสร็จดาวพระเคราะห์บุรี จะชั่วกาลนานลดหลั่นพระราชาถึง 150 ปี” ชาวไทยทั้งหมดหรือว่าส่วนมาก จักคุ้นชินได้ยินคำกล่าวแหวดวงชะตาเมืองไม่ก็ดวงชะตานครห้ามลงมาแต่ว่าอาจจะไม่เคยตอแยความสำคัญของดวงชะตานครที่พูดห้ามตรงนั้นตวาด เลี่ยนมีความสำคัญแค่ไหน บางท่านคงเห็นว่าเกิดเรื่องความหลงละเมอหรืองมงายเจียรตกลง เสียแต่ว่าเพราะด้วยผู้ปกครองด้าวสิ่งของประเทศไทย เจาะจงจุฑาธิปไตยทั้งหมดพระองค์ตั้งแต่สมเด็จพุทธเจ้าจอมท้องฟ้าว่าวจุฬาแหล่งหล้า เป็นต้นมา จวบจนถึงจดพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ได้ดวงชะตาพอที่ว่าตรงนี้ลงมาเป็นประโยชน์แห่งการปกครองและความปกครองแดนเปล่าจังก็โกร๋งเกร๋ง ทั้งหมดพระองค์ธำรงใช้มาทั้งนั้น ดวงชะตานครที่ผูกขึ้นตามวันระยะเวลาณวันนั้น ได้มาดำรงฐานะเครื่องอุปกรณ์ชี้นำให้พระองค์ปฏิบัติการปกครองประเทศลงมาทุก googletagมันสมองcmd.push(function () googletagมันสมองdisplay(‘gpt-336×280-content-2’);); เจาะจงณแผ่นดินแห่งหน 1 พระบาทาสมเด็จพระพุทธเจ้ายอดท้องฟ้าจุฬาพื้นแผ่นดินอีกด้วยสมในะชีพหยุดหมแห่ง์มากมายรวมชุมนุมวางโอกาสโชคชะตาเมืองด้วยกันฝังเครื่องยึดเหนี่ยวเมืองตรงนั้น พระองค์ได้ประสบการณ์สองประการก็ถือเอาว่าทั้งที่พราหมณ์ปุโรหิต กับสาสมณะชีพเลิกหมแห่ง์นั่งล้อมรอบกันทั่วปะรำแดนดินที่จะฝังเสาหลักนครและขุดขุมหยิบยกผ้าแผ่ตูดหลุมอีกด้วยสรรพเวทย์มหาราชะรองลงมาจากไว้อย่างเรียบร้อยมองเห็นกักคุมอยู่ทั้งปวงตัวมนุช ครั้นนำเครื่องยึดเหนี่ยวบุรีที่สร้างอีกด้วยไม้กำมพฤกษ์ลงจรนั้น ก็คงอยู่ตวาดงูเล็ก 4 เนื้อตัวยอมไปเค้งอยู่ ด้วยกันจำต้องฝังทั้งเป็นยอมไป ทั่วพระองค์ด้วยกันผู้รู้ณสมัยตรงนั้นเกิดความเป็นห่วงเป็นใยกลุ้มตวาด เช่นไรจักบังเกิดแก่รัฐถัดจากอีก หลังจากที่สงครามเก้าทัพสิ่งของสหภาพพม่าที่มาประชิดประเทศอยู่ ไม่ได้นับว่าการลงเจียรนอนตายแห่งหลุมหลักเมืองของอสรพิษทั่วถู่ร่างกายตรงนั้น เป็นเรื่องตงิดๆ เสียแต่ว่านับว่ามันเป็นอาถรรพณ์แห่งแจ้งแหวจะจำต้องประกอบด้วยเหตุการณ์ร้ายอายุมากประเทศมั่นเหมาะ! หลังจากเรียกหารวมพลชีบานาพระภิกษุด้วยกันปราชญขบคิดกักคุม ก็ไม่มีผู้ใดสมรรถจะบ่งบอกได้มาแหวจะก่อเกิดกระไรขึ้น แม้ว่าเปล่ากี่ทอผ้าวันก็เกิดอสนีบาตยอมแห่งหนจอมพระราชวังที่นั่งอมรินทร์ตัดสินขึ้นไปลงมา ทำให้พระสงฆ์บาทาสมเด็จพระพุทธจอมท้องฟ้าว่าวกุลาแหล่งหล้าธำรงเดาสุ่มออกมาได้ดุประเทศชาติแห่งที่ว่างตรงนั้นจักไม่มีกระไรบังเกิดรุนแรง แม้ว่าอีก 150 ชันษาข้างหน้ากรุงเทพมหานครรูรั่วดวงชะตานครมันก็จักเปลี่ยนขนมจากกระบิลลัทธิสมบูรณาญาสิทธิราชย์จรเป็นประการอื่น ซึ่งพระองค์ดำรงบอกตวาด “จะอยู่ยืดลำดับกษัตริย์เจียรอีก 150 ปี” ซึ่งหลังจากนั้นเมื่อจดวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ก็มีการปฏิวัติปรับเปลี่ยนการปกครองมาครอบครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งต้องคดีแม่นตรงด้วยกันแน่นอนชนิดเกินจริงสิ่งของคนไทยเก่าก่อน ซึ่งพอเปรียบเทียบกับคนทุกวันนี้ก็ตกว่ามนุชแห่งไม่มีการศึกษา ไม่ไหวครอบครองแดนไม่ก็เอ่ยปากภาษาต่างประเทศไม่ได้ ชนิดแห่งดีฉันถือมั่นกักคุมอยู่ในเวลานี้ตวาดคนก๊กนี้แค่นั้นที่จะดำรงฐานะมนุษย์รู้มากด้วยกันประกอบด้วยการเล่าเรียนติดตามคติสรรพสิ่งคนไทยปัจจุบัน เช่นแห่งระยะเวลาแผ่นดินแห่ง 6 ครั้นจักก่อกำเนิดสงครามโลกครั้งที่สอง แหลมทองจักจำเป็นต้องตัดสินใจฉวยโอกาสนี้ค้นแก้ปัญหาเอกราชกับอำนาจอธิปไตยสาเหตุจากให้คำปฏิญาณถูกหักหาญแยกออกจำเป็นต้องตกลงตั้งแต่ระยะเวลา รัตนโกสินทร์ศก112 เพราะว่าการสร้างอำนาจต่อรองขึ้นกับสัมพันธมิตร ประเทศไทยจะต้องส่งนักรบเข้าร่วมสู้กับดักสัมพันธมิตร เพราะว่ายังไงก็ธำรงเชื่อตวาดพันธมิตรจะพบเห็นการมีชัยชนะประเทศไทยก็จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในชัยตรงนั้นอีกด้วย ครั้นสงครามสงบ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ธำรงเร่งรีบทูลเยียวยากฎหมายทาสาระหว่างประเทศไทยกับดักประเทศทิศตะวันตกที่ทำเอาไทยตกเป็นทาสาของแดนตะวันตกเร็ว แหล่ดามมากมายวันที่ธำรงตัดสินใจกับจะข่าวสารเวลากลางวันส่งทหารไทยไปฝรั่งเศส มากโหราศาสตร์ยอดเยี่ยมตั้งแต่พระยาโหราธิบดีลงมาจวบจนถึงเธอพระคุณสาธารณะมากมายแกถูกกับดักร่างกายไว้ณเรือนหลวงเปล่ามอบออกมาข้างนอก ก็เพราะว่าหวาดกลัวดุข่าวสารที่แหลมทองจะส่งนักรบจรลุ้นแนวร่วมจักทำให้เสียการได้ ก็โชคเคราะห์เมืองนี้แหละที่พระองค์รักษาแยกออกกรมคนพยากรณ์ระยะเวลานั้นหากาลพนักงานตรวจตราและสำรวจปลงใจดุจะต้องถ่างคะตระหนกปีกเต็มที่ตรงนั้นหรือเปล่า ขนมจากโชคเคราะห์บุรีดวงชะตาตรงนี้? เจาะจงแห่งระยะเวลาแผ่นดินแห่งหน 4 ดวงชะตาบุรีได้ได้โอกาสใช้คืนเต็มแรงเต็มที่เฉียดฉิวทุกปีก เฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับดินลำธารมารุตกะหมอกที่จะมีผลกระทบบริสุทธ์และผลเสียหายที่จะบังเกิดอายุมากประชาชนกับประเทศชาติ เจาะจงการสัญจรสรรพสิ่งดาวปะปนกัน ตามฤดูกาลที่จะมีผลกระทบต้นหมากรากไม้เมล็ดธัญพืชในประเทศ โชคเคราะห์เมืองที่ได้มีการซุกหลักเมืองณวันที่ 21 เดือนที่ 4 พุทธศก2325 เต็มไปด้วยบรรยากาศของอำนาจกับอาถรรพณ์แหล่ชนิด เฉพาะอย่างยิ่งแห่งหนคนโบราณเชื่อห้ามก็คือว่า รวมหมด 4 มุมนครตรงนั้น ไม่ผิดซุกอาถรรพณะทั้งปวงเวทย์ยิ่งใหญ่ยันต์ไว้รวมหมดถู่ก้ำเพื่อปกป้องคู่แข่งและธรณีสาร อันตราย ด้วยกันคนทรามที่จะเข้ามาก่อกวนให้เกิดดำรงฐานะภัยดามประเทศ ไม่ว่าจะประกอบด้วยอำนาจศักดิ์สิทธิ์อิทธิฤทธิ์อย่างไร ณสมัยก่อนนั้น คนโบราณทั้งหมดจักต้องมีมนต์ด้วยกันของดีติดตัวห้ามทั้งหมด เจาะจงผู้ชำนาญพิเศษแห่งเวทมนตร์คาถาที่จะนฤมิตเป่าหรือกระทำพิธีกระไรเสาะหาคุณประโยชน์นั้น หลงเชื่อห้ามดุมีจริง เสียแต่ว่าคนกลุ่มนี้แม้เข้าณแดนดินกรุงเทพมหานคร หลังจากนั้น ไม่ว่าจะมุมใดณ 4 หัวมุมนั้น อาคมอาคมที่ว่าขลังด้วยกันประกอบด้วยอิทธิฤทธิ์ จะหมดสิ้นจรเร็ว โชคชะตาบุรีประเทศไทยคว้าบ่งบอกแยกออกมนุชที่สนใจเชื่อถือแห่งเหตุน่าเลื่อมใสกับอาถรรพณ์ลงมาทุกเมื่อ 200 กว่าชันษาที่ผ่านมา ทั้งคำสบถด้วยกันอาถรรพณะหลากหลาย ยังคงมีความหมายสิงสู่ กับอีกทั้งควรจะเชื่อกันคว้าต่อไปแหวอาถรรพณะด้วยกันคดีน่าเลื่อมใสแห่งเก่าก่อนคว้าปลุกเสกไว้ทั่วถู่หัวมุมนครตรงนั้น ควรจะยังมีความหมายอยู่ชะงัด เฉพาะอย่างยิ่ง คนเลวที่เป็นอยู่เช่นกันความทุจริตนึกดูมิชอบทาบประเทศชาติอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้แต่การกินสินบนกินบ้านกินเมืองกันอย่างครึกโครมเวลานี้ ก็ไม่น่าจะความปลอดภัยมีชัยกันเจียรได้อย่างวัฒนาถาวรเจียรจำเนียรนัก เพราะเมื่อนำดวงดาวแห่งมีอยู่แห่งดวงชะตาเดิมพอวันที่ 21 เมษายน พุทธศักราช2325 ด้วยกันนักษัตรไปแห่งท่องเที่ยวชนิดชวนมองสิงสู่ตอนนี้มามองดูกัน