วันมหาสงกรานต์

คาถา แคล้วคลาด ปลอดภัย

พอถึงจันทราเบญจ(๕) ตรงๆกับวันที่ 13 เดือนที่ 4สรรพสิ่งทั้งหมด ๆ พรรษา ดิฉันเรียกหาวันนี้ตวาด “วันสงกรานต์” ธรรมเนียมแหลมทองเริ่มแรกนับว่าวันนี้ดำรงฐานะวันขึ้นปีใหม่ ธรรมเนียมประเทศไทยดิฉันก็จักมีการโจ้รื่นเริงประกอบด้วยการลาดธาร ดำหัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนุ่มสาว ๆ หนุ่ม ๆ จักม่วนกักคุมเต็มที่ เล่นสาดห้วยกันเพราะว่าไม่ถือเนื้อถือตัวเกิน ในที่บ้านนอกหลายที่ มีงานเล่นพื้นบ้านต่าง ๆ กัน อนึ่ง วันนี้บางพื้นที่จะเริ่มขนมจากวันที่ 13 เมษายน กับประกอบด้วยการเล่นสนุกสนานเจียรดุจ ๆ 1 สัปดาห์ ไม่ก็กระทั่งนั้น แต่ว่าไม่เลย 2 สัปดาห์ ระยะนี้จักมีการพาเสาวธาร เสื้อแสงไปสรงน้ำคนชราพี่น้อง ที่นับถือ กับทางศาสนาก็แจ๋มอบมีการบายศรีพระสงฆ์สมภารเจ้าวัด รดน้ำพุทธปฏิมาศักดิอำนาจ ตราบที่มีตามวัดแตกต่าง ๆ ละม้าย เกิดทิวาสงกรานต์ มีปัญหาบอกแสวง ๆ กักคุมลงมา น่าจะจดนำเก็บเช่นจะตาขอคัดแยกเหตุจารึกวัดเชตุพนฯ ยิ่งนักไม่ทันเวลาวเจียรชั้นเมธาสรรพสิ่งคนดีทั้งหมดดังนี้ “มันสมองมันสมอง.มันสมองมันสมองพอต้นไม้ใบหญ้าดีกัลป์ ประกอบด้วยเศรษฐีคนหนึ่ง มั่งคั่งทรัพย์จัง เสียแต่ว่าไม่มีลูกชายบ้านอยู่เกือบกับดักนักเลงเหล้า นักเลงเหล้าตรงนั้นมีบุตร 2 คน ผิวเนื้อราวกับทอง สักวันหนึ่งนักเลงสุราเข้าที่บ้านสิ่งของเศรษฐี แล้วตำหนิเศรษฐีด้วยเรื่องหยาบคายแตกต่าง ๆ กุฎุมพีได้ตรวจฟังแล้วจึงถามกลับตวาด คุณประกอบด้วยทรัพย์สินอุดมแต่ว่าควานประกอบด้วยบุตรไม่ เมื่อท่านจบชีวิตเจียรแล้วทรัพย์สมบัติจักสูญเจียรสิ้นตักตวงอันไหนหามิได้ เพราะฉีกเลือดเนื้อเชื้อไขประธานาธิบดี กระผมประกอบด้วยบุตรสิงสู่จด 2 คน ด้วยกันรูปร่างดีงามชำรุดด้วย ผมแล้วจึงเป็นต่อท่านกุฎุมพีครั้นได้ตรวจฟังเหตุฉะนี้ก็เห็นจริงเช่นกัน แล้วจึงมีความอายดามนักเลงสุราจัง จึ่งนึกกำหนัดประสงค์ลูกชายโปร่ง แล้วจึงกระทำ เซ่นดวงอาทิตย์ กับดวงเดือน ก่อตั้งจิตพิษฐาน เพื่อขอประกอบด้วยลูกชาย อยู่ถึง 3 ชันษา ก็หามิได้ประกอบด้วยลูกชายสาสมดังปรารถนา ครั้นตาขอบุตรชายดามดวงอาทิตย์จันทรามิใช่ดังปรารถนาแล้ว สิงสู่มาวันหนึ่งจรดฤดูฤดูร้อนการวาดเขียนมาส ดวงเดือนเบญจ(๕) แหล่งหล้าสาสมมุติตวาดครอบครองวันวันสงกรานต์ คือว่า ดวงอาทิตย์กว้านขนมจากสง่าราศีมัสยาประเวสสู่เมษ มนุชประดานำพากันโจ้นักขัตฤกษ์ สำเร็จหรรษาขึ้นปีใหม่ ทั่วชมพูทวีป ขณะนั้นเศรษฐีจึ่งนำพาข้าทาสลูกล้อไปอีกต่างหากไทรฝั่งแม่น้ำอันเป็นแหล่งที่อยู่แห่งสกุณาชนชาติ ทั้งหมด เอาข้าวสารซาวน้ำ 7 ครั้ง แล้วหุงหาอาหารเทิดรุกขพระถต้นไทรพร้อมด้วยสูปตัวอักษรสิ่งประณีต และโหมโรงอีกด้วยดนตรีดุริยางคต่าง ๆ จัดตั้งขึ้นจิตใจอธิษฐานขอบุตรจากรุกขพระสงฆ์ต้นไทร รุกขตุ๊แหลมทองมีความปรานีบินเจียรตะขอบุตรชายประกบพระอินทร์เพื่อจักแยกออกอายุมากเศรษฐี เทพบดีจึงคว้าธรรมบาลเอียงวบุตรชาย ยอมไปปฏิสนธิที่อุทร บิดามาตาตั้งชื่อดุ ผู้รักษาธรรมกุมาร จึ่งสร้างพระราชวังขึ้นไปแจกกุมารอยู่ใตไทรฝั่งแม่น้ำตรงนั้น พอปดลงมาก้าวหน้าขึ้น ก็เข้าใจภาษามนุษย์ทวิชจากนั้นสำเร็จการศึกษาตรีสุรครั้นชนมพรรษาได้มา 8 ขวบ ด้วยกันได้มาเป็นอาจารย์บอกสิริมงคลการต่าง ๆ อายุมากมนุชชาวประเทศอินเดีย หมดด้วยกัน ซึ่งในตอนนั้นพื้นโลกประดานับหน้าถือตาท้าวมหาพรหม ด้วยกันกบิลพรหม ตัวหนึ่งได้แสดงมงคลการแก่คนทั่งปวง เมื่อกบิลพรหมแจ้งเหตุแห่งหนธรรมบาลกุมาร ครอบครองผู้มีชื่อเสียง ดำรงฐานะที่นับหน้าถือตาของมนุษย์ชาวโลกทั้งหลาย จึงมาย้อนถามโจทย์แก่ธรรมบาลกุมาร 3 หัวเรื่อง เรื่องแหว 1.กาลเวลาอรุณรุ่ง สิริคือราศีสิงสู่แห่งใด 2.เวลาเที่ยง สิริคือว่าราศีสิงสู่แห่งไหน 3.สายัณห์ มิ่งขวัญคือว่าสง่าราศีอยู่ที่ไหน ด้วยกันสัญญาตวาด ถ้าคุณขบปัญหา 3 หัวเรื่องตรงนี้ได้เราจะเชือดหัวฉันเทิดคุณ ถ้าหากคุณไขปัญหาไม่ไหว ฉันจะฟันหัวคุณเสื่อมโทรม ธรรมบาลกุมารรับสารภาพสัญญา แต่เปลี่ยนผ้าขบปัญหาคลอดเจียร 7 ทิวา กบมนุษยชาติลพรโปะ็กลับมาจรอีกทั้งพรหมแหล่งหล้า ก้ำผู้รักษาธรรมกุมารตรวจสอบปัญหาตรงนั้นผ่านพ้นไปคว้า 6 วัน จากนั้นอีกต่างหากไม่เห็นยุทธวิธีที่จะต้องปัญหาคว้า จึ่งไตร่ตรองแหวพรุ่งนี้หลังจากนั้นสินะ ฉันจักต้องตายเช่นกันคดีอาญาสิ่งของพระเจ้าแผ่นดินกบมนุษยชาติลพรหม เราหามุ่งหวังไม่ จดจำจักเผ่นหนีเจียรปกปิดตนเสื่อมโทรมได้เปรียบ คิดแล้วยอมขนมจากประสาทท่องเที่ยวจรเค้งสิงสู่ใต้ต้นตาล 2 ต้นไม้ ซึ่งมัสยากอินทเรียว 2 ตัวเมียสร้างรังสิงสู่บนบานต้นตาลตรงนั้น ขณะที่ผู้รักษาธรรมกุมารเค้งอยู่ใต้ตาลตรงนั้น ได้ยินเสียงรมณีนกอินทเรียวถามผัวดุพรุ่งนี้ ดีฉันจักเยือนอาหารที่ไหน ปักษินอินทเรียวผู้สวามีซูบตวาดพรุ่งนี้ครบถ้วน 7 ทิวากาล ที่ผู้เป็นใหญ่กบเหลาดินสอมนุษยชาติลพรหมถามโจทย์อายุมากผู้รักษาธรรมกุมาร แต่ว่าธรรมบาลกุมารแก้ไขไม่ไหว ผู้เป็นใหญ่กบิลพรหมจะเชือดกะโหลกเสียตามให้คำปฏิญาณเราทั้ง 2 จะได้ใช้เนื้อคนคือว่าผู้รักษาธรรมกุมารตรงนั้นดำรงฐานะของกิน อนงค์ทวิชอินทเรียวจึ่งย้อนถามแกรู้โจทย์หรือ ผู้ผัวตอบตวาดเข้าใจ จึงปริปากแจกอนงค์ปักษินอินทรีฟังตั้งแต่ต้นไม้จนชายแหว 1.กาลเวลาเช้าราศีอยู่ที่ใบหน้า คนทั้งหมดจึงหยิบยกลำธารล้างหน้า 2.เวลาตรงราศีสิงสู่ที่ทรวง มนุษย์ทั้งหลายจึงนำน้ำและแป้งตานนกกรดพระจันทร์ไล้แห่งหนทรวง 3.สายัณห์สง่าราศีอยู่แห่งหนบาท คนทั้งหลายแล้วจึงเอาน้ำชะล้างตีน ธรรมบาลกุมารนอนสิงสู่ใต้ไม้ได้ยินการพูดจาสิ่งของทวิชอินทรี รวมหมด 2 ก็นึกได้ จึ่งมีความโสมนัสชันษาตำหนิดีใจเป็นอันมาก แล้วจึงกลับมาสู่วังสรรพสิ่งตัว พอจรดวารดำรงฐานะวาจาสู้รบ 7 ตามสัญญา ผู้เป็นใหญ่กบเหลาดินสอมนุษยชาติลพรสุม็ลงมาถามปัญหาทั้ง 3 หัวเรื่อง ตามที่นัดหมายกักคุมไว้ ผู้รักษาธรรมกุมารก็ชี้แจงแก้ปัญหาทั้ง 3 เรื่อง ดังที่ได้มาตรวจฟังมาจากปักษินอินทเรียวตรงนั้น ผู้เป็นใหญ่กบมนุษยชาติลพรหมตกลงตวาดถูกต้อง และยอมแก่ผู้รักษาธรรมกุมาร ด้วยกันจำเป็นต้องฟันกะโหลกสิ่งของตัวเทิดทูนดังที่ให้คำปฏิญาณเก็บ เมื่อก่อนนี้ที่จะเชือดหัว

คว้าประภาษเรียกลูกสาวทั่ว 7 อันเป็นไปบาทบริจารึกาของเทพบดีคือว่า 1.นางทุงษะนางพญา 2.นางรากระทรวงเกษตรและสหกรณ์สนางกษัตริย์ 3.รมณีวัวราคเทวี 4.อนงค์ช้างพังนางกษัตริย์ 5.ท้องนาควานที่ฑานางพญา 6.ท้องนาขี้หวงิมิทาเทวี 7.ทุ่งนางมโหธรนางพญา ชิ้นพื้นโลกสาสมมุติดุครอบครองอวัยวะมหาสงกรานต์ กับดักทั้งเทวดาบรรษัทมาพร้อมกันจากนั้น จึ่งบ่งบอกกิจจามอบทราบ ด้วยกันประภาษดุพระเศียรสิ่งของเรานี้ สมมติว่าตั้งไว้บนบานเมทนีก็จักก่อกำเนิดไฟไหม้จรทั่วโลกแร่ธาตุ ถ้าจะโยนขึ้นบนบานศาลกล่าวอากาศพระพิรุณก็จะแล้ง เจ้ารวมหมด 7 จงเอาพานมารองรับเศียรของบิดาเก็บเทอญ ดังนั้นท้าวกบเหลาดินสอิลพรสุม็เชือดพระเศียรแค่ตุ๊ศอส่งแยกออกรมณีทุงษะนางพญา บุตรีองค์เทอะทะในขณะนันแหล่งหล้าก็ก่อเกิดอลเวงปั่นป่วนจัง เมื่อรมณีชั่วงษะมหาสงกรานต์ เอาพานรับพระเศียรของท้าวกบเหลาดินสอิลพรหม จึ่งมอบเทวดาบรรษัทแห่งหนประทักษิณ เวียนรอบนกเขาพระสงฆ์สุเมรุราช 60 นาที แล้วจึงเชิญอรุณรุ่งประดิษฐาน ไว้ณมในฑป ที่ ถ้ำคันธธุลี นกเขาไกปืนรกราบลาส ทำงานเทิดทูนด้วยสิ่งทิพย์แตกต่าง ๆ พระสงฆ์วิศณุกรรม เทพยดาก็สร้างโลงศพแก้ว สิ่งแล้วเจียรดวยดาลัด 7 ชนิด ชื่อ ภัควดีงามมอบเทพธิดา และนางฟ้าจากนั้น เทวดาทั้งหมดก็นำมาซึ่งเถาฉหักโหมท้องนาตยอมล้างน้ำ ณชลาศัยอโนดาต 7 ครั้ง แล้วแบ่งสรรกักคุมสังเวย ทั่ว ทั้งหมด ๆ พระองค์ ครั้นได้มาวาระกำหนดครบถ้วน 365 ทิวากาล พื้นแผ่นดินสมความเห็นตวาดพรรษาหนึ่งดำรงฐานะทิวาสงกรานต์ อนงค์เทพธิดาทั่ว 7 ก็รักษาพาหนะต่าง ๆ รับช่วงเวียนไปเวียนมากันลงมาอัญเชิญพระเศียรสิ่งของกบิลพรหม คลอดแหนแห่พรโกงด้วยสุรบรรษัทแสนโกฏิปทักขิณ เวียนไปเวียนมารอบเขาพระสุเขาพระสุเมรุบรรพตทั้งหมด ๆ พรรษา จึงหวนกลับจรยังที่อยู่มันสมอง.มันสมอง” วันเถลิงศก เริ่มแรกธรรมเนียมประเพณีไทยดีฉันถือประเพณีตวาด ทิวากาลวันสงกรานต์ดำรงฐานะเถลิงศกนวชาต คือว่า ถือเอาหยิบยกวันที่ 13 เดือนที่ 4รายปี ครอบครองวันขึ้นปีใหม่ พึ่งจะมาเปลี่ยนพอปี พ.ศ.2484 ประกบ พ.ศ.2485 เวลาแม่ทัพ ป.พิบูลสงคราม ครอบครองนายกรัฐมนตรีตรงนี้เอง อาจารย์ท่านบอกล่วงหน้าคว้าแหว ถ้าหากวันใดเป็นวันขึ้นปีใหม่ วันนั้นจะเกิดกระไรดังนี้ ถ้าวันอาทิตย์ ดำรงฐานะเถลิงศก พระมหากษัตริย์จะเรืองอำนาจจะเอาชนะอายุมากศัตรูทั่วด้าน ถ้าหากวันพระจันทร์ ดำรงฐานะวันเถลิงศก ตุ๊นางพญาและกลุ่มนางนักสนมลูกล้อ ประกอบด้วย ความสุขและ ทรัพย์สมบัติทั่งปวง สมมติว่าทิวาอังคาร เป็นวันเถลิงศก เสวกที่ปรึกษาจะอยู่ตอนเย็นเป็นสุขแม้จะดามยุทธเช่นกันข้าศึกฝ่ายไหน ๆ จะชนะชนะเลิศทุกเมื่อ สมมติว่าทิวา พุธ ครอบครองวันขึ้นปีใหม่ ราชบัณฑิตปุโรหิต ด้วยกันโหรจะสุขดีใจเป็นอันมาก สมมติว่าวันพฤหัสบดี ครอบครองวันขึ้นปีใหม่ สมณพราหมในาจารย์จักทำชอบอีกด้วยธรรมอันเด่น ถ้าทิวากาลวันศุกร์ เป็นวันเถลิงศก วาณิชวานิชทั้งหมดเจียรซื้อขายในประเทศต่าง ๆ จะกอปรไปอีกด้วยหีบห่อทรัพย์สินด้วยกันความสุขเป็นอย่างมาก สมมติว่าทิวากาลดาวเสาร์ ดำรงฐานะวันเถลิงศก กลุ่มทกล้านักสู้หมดด้วยกันจะประกอบไปด้วยความสบายและวิชาการแตกต่าง ๆ แม้จักทำยุทธเช่นกันคู่แข่งด้านไหน ๆ จะมีชัยชนะทุกเวลาแล วันวันมหาสงกรานต์ สิทธิการิยะ ถ้าสงกรานต์พรรษาไรวันอาทิตย์ ครอบครองทิวากาลมหาสงกรานต์พรรษาตรงนั้นเรือกสวนท้องนา ไม่เงี่ยนเฉิดฉาย ถ้าทิวาจันทรา ครอบครองทิวามหาสงกรานต์ จักจำนนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พระเจ้าแผ่นดินออกญาดูและรมณีออกญาประดา ถ้าทิวาวันอังคารและทิวากาลเสาร์ ดำรงฐานะทิวาวันมหาสงกรานต์ จะก่อกำเนิดภัยประชาชน จะเกิดเพลงด้วยกันโจรผู้ร้าย ไข้บาดเจ็บทนทุกข์ที่สุด สมมติว่าวันพุธ ครอบครองวันมหาสงกรานต์ พระเจ้าแผ่นดินพระยาจักได้มาบรรณาการขนมจากต่างเมือง แต่จะแพ้ลูกอ่อนมาก สมมติว่าวันพฤหัส ครอบครองวันมหาสงกรานต์ จะจำนนท้าวอิสระ พระสงฆ์ราชาคณะ จักเดือดเนื้อร้อนใจหลาย ถ้าหากทิวากาลศุกร์ เป็นทิวามหาสงกรานต์ ภัตธารา ลูกหมากรากไม้ประดา จักอุดมสมบูรณ์ แต่จะแพ้ลูก ฝนและพายุชุม จักบาดเจ็บตายกักคุมจังนักแล ทิวาเนา ทิวาเทุ่งนา เป็นต้นว่า วันก่อนจะจดวันที่ 13 เมษายน เช่นวันที่ 12 เมษายน ของทั้งปวง ๆ พรรษา อาจารย์ท่านแหมะทำนายเก็บเช่นนี้ สมมติว่ารวิวาร ดำรงฐานะทิวากาลเท้องนา อาหารจะตายฝอย จะได้ข่าวความเห็นมนุษย์ต่างภาษา ท้าวออกญาจะทุกข์ใจ ถ้าทิวาดวงเดือน ครอบครองทิวากาลเท้องนา เกลือสมุทรจะมีราคา นางออกญาจะร้อนใจมาก มักก่อเกิดเรื่องไข้แตกต่าง ๆ สมมติว่าวันอังคาร ครอบครองทิวากาลเทุ่งนา หมากพลูภัตมัจฉะจะแพง จะจำนนผู้แนะนำข้าราชบริพารหมดด้วยกัน ถ้าหากวันวันพุธ ดำรงฐานะทิวากาลเนา ภัตจะแพง มนุษย์ทั้งหลายจะเดือดร้อน แม้หม้ายจะจากแหล่งที่อยู่ สมมติว่าทิวากาลวันพฤหัสบดี ครอบครองทิวากาลเทุ่งนา ส้มสุกลูกไม้จักแพง ราชตระกูลประดาจะร้อนใจนัก ถ้าหากทิวากาลวันศุกร์ ดำรงฐานะทิวาเท้องนา พริกจักแพง จักก่อเกิดเพลิงประชาชน กวานจะต้องโทษ ภัตจักตายฝอย น้ำจักบางตา กว่ารายปี ชีพเลิกหมใน์จักทุกข์ใจ ผลิตผลมักแพงแลดู ชื่อนางวันสงกรานต์ เหมือนกับได้ทูลลงมาแล้วตวาด ลูกสาวผู้เป็นใหญ่กบมนุษยชาติลพรหมมี สิงสู่ด้วยกัน 7 รมณี สมมติว่าชันษาใดอนงค์สงกรานต์ ตรงกับดักเช่นไรที่ 7 วัน นางทั้ง 7 ก็รับช่วงเวรกรรมห้ามลงมายอมรับศีรษะของชนกตนเพื่อที่จะมิแยกออกยินยอมสู่แผ่นดิน ก็เพราะว่าจะก่อเกิดฝนแล้งไฟเผาพื้นโลก รมณีทั้ง 7 โด่งดังแตกต่าง ๆ ห้าม ด้วยกันทรงเครื่องก็ผิดแผกแตกต่างห้ามคลอดเจียร กอปรกับดักอาวุธยุทธภัณฑ์แห่งถือก็ผิดแผกกักคุมเช่นกันดังนั้น รวิวาร อนงค์สงกรานต์ชื่อ เลวงษะ เหน็บค่าตอบแทนพลอยสีแดง เครื่องตกแต่ง ปัทมราช (ดาลัดพลอยสีแดง) ภักษาหาร อุทุมพร (ผลมะเดื่อ) อาวุธทักษิณจักร พามสังข์ ยานพาหนะครุฑ ทิวากาลพระจันทร์ อนงค์สงกรานต์ชื่อเสียงเรียงนาม วัวราคะ เหน็บดอกเบี้ยพรรษาบ เครื่องประดับ มุก ภักษาหาร เตเว้น (น้ำมันเชื้อเพลิง) อาวุธยุทโธปกรณ์ทักษิณพระขรรค์ ซ้ายไม้เท้า ยานพาหนะพยักฆ์ (เสือ) วันอังคาร นางวันสงกรานต์ชื่อเสียงเรียงนาม หยุดกษส อรพินท์หลวง เครื่องประดับ ดาลัดโมรา ภักษาหารโลหิต (โลหิต) อาวุธยุทโธปกรณ์ทักษิณหลาวสามง่าม (หลาว 3 ง่าม) ข้างซ้ายศร พาหนะวราหะ (ไม่ยาก) ทิวาพุธ รมณีสงกรานต์ชื่อเสียงเรียงนาม มที่ฑา เหน็บค่าตอบแทนจำปา อลงกรณ์ เพชรตาแมว ภักษาหารพี่เลี้ยงเด็กเนย อาวุธยุทโธปกรณ์ขวาเสาเข็ม ซ้ายไม้สักกะเท้า นำครั้งะคัทรรัศมี (ฬา) วันพฤหัสบดี นางวันสงกรานต์ชื่อเสียงเรียงนาม ช้างพัง ทัดค่าตอบแทนมที่ฑา เครื่องประดับ มรกต ภักษาหาร โปกำงาช้าง อาวุธขวาขอ ข้างซ้ายปืน นำครั้งะคช (ช้าง) วันวันศุกร์ นางวันสงกรานต์ชื่อ กิมิอาบ เหน็บดอกเบี้ยจงกลนี เครื่องตกแต่ง บุษราคัม ภักษาหาร กล้วยน้ำ อาวุธยุทโธปกรณ์ทักษิณพระสงฆ์ขรรค์ ซ้ายพิณ พาหนะกระบือ (ทุย) ทิวากาลดาวเสาร์ นางสงกรานต์ชื่อเสียงเรียงนาม มโหธร เหน็บค่าตอบแทนกำเริบ เครื่องประดับนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย อาวุธยุทธภัณฑ์ขวาจักร ซ้ายไตร พาหนะมยุร (ยูง) หมายเหตุ เก่าก่อนภักษาหารด้วยกันอาวุธยุทธภัณฑ์ดังที่กล่าวมาแล้วติดสอยห้อยตามทิวากาลแตกต่าง ๆ ตรงนั้นชินแจ๋ไว้ตามวันเสมอมา พึ่งมาเลิกครั้นข้างหลังเปลี่ยนแปลงความปกครอง ตกว่า พุทธศักราช2476 มาตรงนี้เท่านั้นเอง รวมหมดพิธีรีตองสาธารณะ แบบแผนราษฎร์ ก็จัดทำสงวนที่ท้องสนามหลวงกับตามบ้านนอก ช่วงปัจจุบันกำลังจะประกอบด้วยการบูรณะพิธีนี้นำมากระทำกักคุมอีก ท่าทางรมณีวันสงกรานต์ห้อยานพาหนะ นางวันสงกรานต์ จะนั่งลงบนบานพาหนะในบุคลิกอย่างไรนั้น ท่านแยกออกนับระยะเวลาแห่งหนตะวันยกไปสู่ราศีเมษสรรพสิ่งชันษานั้น ๆ เป็นกฎ คงจะไม่เข้าใครออกใครทิวา รุ่งสว่าง สาย เอี้ยว สายัณห์ ไม่ก็กลางๆ กลับคืน เวลาใดระยะเวลาหนึ่งตกลง ถ้าตะวันกว้านเข้าสู่ราศีเมษระยะเวลา 1. สว่างจรดตรง อนงค์สงกรานต์ยืนบนบานพาหนะ 2. ตรงจดวันย่ำค่ำ นางวันสงกรานต์นั่งบนบานพาหนะ 3. จวนค่ำจรดดึก รมณีสงกรานต์ นอนลืมตาบนบานศาลกล่าวพาหนะ 4. เที่ยงคืนจดรุ่งสว่าง นางสงกรานต์นอนตาบนยานพาหนะ ข้อน่าสังเกต ท่าทางกลุ่มนี้ คุณจะพบพานบนบานปฏิทินกระบิ ๆ แห่งใสสำนักพิมพ์เขาพิมพ์กำจัด ทุกปี